ช่วงเวลาที่ว่างงานประมาณ 6 เดือนของเม เป็นช่วงที่เมได้ลองทำอะไรเยอะเลย และคิดว่าอยากจะเอามาเขียนลงบล็อกไว้ แต่ไม่อยากจะเขียนในแง่ที่ว่ามาสอนว่าต้องทำอะไร เพราะแต่ละคนก็คงมีแนวทางของตัวเอง แต่เมอยากมาแชร์ว่าการที่เราว่างงานเนี่ย เมได้ทำอะไรบ้างในช่วงเวลานี้ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์
อาจจะดูเป็นช่วงเวลาที่นานสักหน่อย แต่มีเหตุการณ์และเหตุผลบางประการที่ทำให้ยังไม่ได้เริ่มงานใหม่ ถามว่าลำบากมั้ยก็ลำบากน แต่สำหรับคนที่ยังว่างงงานที่แวะเข้ามาอ่านบล็อกนี้ ไม่ต้องเอาแต่ท้อแท้นะคะ โอกาสใหม่ ที่ดีๆ มีมาเสมอ จงเชื่อมั่นในตัวเอง และเริ่มเลยค่ะ
มาค่ะมาเร่ิมกันเลยนะว่า ว่างงาน ทำยังไงดี?
1. แจ้งว่างงาน รับเงินทดแทน
สำหรับมนุษย์เงินเดือนที่เป็นผู้ประกันตนทั้งหลาย จ่ายประกันสังคมกันไปแล้ว มาใช้สิทธิของเรากันค่ะ
ขั้นตอนที่ 1 เดี๋ยวนี้ไม่ยุ่งยากแล้วนะจ๊ะ แจ้งออนไลน์ได้เก๋ๆ เมทำงานวันสุดท้าย อีกวันนึงบินไปต่างประเทศก็แจ้งได้ อยู่ที่ไหนก็แจ้งได้ ง่าย สะดวก เกร๋กู้ด โดยเราแค่เข้าไปขึ้นทะเบียนผู้ว่างงานและรายงานตัวผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ภายใน 30 วันนับตั้งแต่วันที่สิ้นสุดสัญญาจ้างงาน ที่ www.empui.doc.go.th
ขั้นตอนที่ 2 แจ้งว่างงานแล้ว ก็รีบไปยื่นแบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน ได้ที่สำนักงานประกันสังคมใกล้บ้านเลยค่ะ โดยเตรียมเอกสารไปดังนี้
สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
แบบฟอร์ม สปส 2-01/7
สำเนาสมุดบัญชีธนาคารที่เป็นชื่อผู้ประกันตน ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน)/ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด(มหาชน)/ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด(มหาชน)/ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน)/ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)/ ธนาคารทหารไทย จำกัด(มหาชน)/ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)/ ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย จำกัด (มหาชน)/ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย
ขั้นตอนที่ 3 รอรับเงินทดแทน หลังจากขึ้นทะเบียนแล้ว ถ้ายังไม่ได้งานทำก็ต้องไปรายงานตัวในเว็บไซต์ ตามกำหนดนะคะ สามารถรายงานตัวล่วงหน้าได้ 7 วัน หลังจากรายงานตัวประมาณ 5วันทำการ ก็จะมีเงินโอนเข้าบัญชีให้ค่ะ เฮ้อ...ถึงจะได้ไม่เยอะ แต่ก็พอค่าเช่าบ้าน รอดตายไปได้อีกนิดนึงเนอะ
2. อัพเดต CV และ Portfolio
ช่วงว่างงานนี่แหละ รีบถือโอกาสปรับปรุง CV และ Portfolio ของเราให้ Up to Date เขียนประสบการณ์ทำงาน สกิลต่างๆ ที่เพิ่มมา หรือรางวัล ประกาศนียบัตรที่ได้รับ รวมถึงใส่ผลงาน Masterpiece ลงไปด้วย ใช้โปรแกรมแล้วแต่ถนัดเลย เมใช้ Keynote ค่ะ เพราะทำโปรแกรมดีไซน์ต่างๆ ไม่เป็น
3. หางาน
หางานเนี่ยทุกคนรู้อยู่แล้วเนอะว่าสมัยนี้มีเว็บไซต์หางานเยอะมาก แม้แต่เฟซบุคยังมีระบบหางานแล้ว แต่เมก็ขอรวบรวมเว็บไซต์หางานเจ้าใหญ่ๆ เอาไว้ให้นะคะ คนว่างงานเข้าไปกรอกประวัติให้ละเอียดนะคะ เพื่อที่จะได้มีสิทธิรับการพิจารณา
4. รับจ็อบ ทำงาน Part-Time
ว่างงานประจำไม่เป็นไร ไม่เลือกงานไม่ยากจนค่ะ ระหว่างที่ไม่มีงานทำ เราก็ต้องรับจ็อบอะไรไปเท่าที่ทำได้ (นี่เมก็คิดๆ ว่าจะไปทำงาน 7-11 อยู่นะเนี่ย)
ช่วงที่เมไปฮานอย เวียดนาม เมก็ทำวิดีโอให้ที่พักที่ฮานอย แลกกับส่วนลดค่าห้องพักค่ะ แล้วกลับมาก็รับถ่ายรีวิวสินค้าต่างๆ ตามปกติ แถมรับได้มากกว่าปกติด้วย เพราะเรามีเวลา ไปถ่ายรูปให้งานอีเว้นท์ก็มี รวมถึงไปเป็นพนักงานขายของให้แบรนด์ Qoya ที่งานแข่งม้า Princess's Cup 2018 ได้ค่าจ้างเป็นรายวัน บวกคอมมิชชั่นจากการขายด้วยค่ะ
5. เรียนรู้เพิ่มเติม
ระหว่างที่ว่างอยู่ เมก็ไปอบรม นั่น โน่น นี่ เพื่อพัฒนาตัวเอง และพบปะผู้คน ไปงานอบรมเรื่องการทำคอนเท้นท์ออนไลน์ ของ Tell Score ไปเวิร์คชอปงานศิลปะกับศิลปินจากนิวยอร์ค คุณ Ethan Minsker งาน Zine Workshop หัดใช้โปรแกรมตัดต่อ แล้วก็อ่านหนังสือฝึกสกิลถ่ายภาพด้วย :)
6. Big Cleaning
ทำความสะอาดบ้านครั้งใหญ่ในรอบปี บริจาคสิ่งของที่เราไม่ใช้ เมเก็บเสื้อผ้าที่ไม่ได้ใช้ ใส่ไม่ได้แล้ว ไปบริจาคให้ชาวลาวตอนน้ำท่วมได้ถึง 5 กระสอบ และมีเครื่องสำอางไปแบ่งเพื่อนๆ เพียบเลย จริงๆ ตั้งใจจะทำนานแล้ว แต่พอหยุดเสาร์อาทิตย์มันก็เหนื่อย ขี้เกียจ พอว่างงาน มีเวลาอยู่บ้านเยอะ ก็ทำได้ชิลล์ๆ ค่อยๆ เก็บไปสองสามวันถึงเสร็จ
7. ออกกำลังกาย
แม้ว่าจะว่างงาน แต่จะนอนๆ กินๆ อย่างเดียวไม่ได้ ก็เลยไปออกกำลังกาย(บ้าง) จะออกแบบไหนก็ได้ตามที่เราชอบและสนุก แค่ออกไปเดินหรือวิ่งสักหน่อย ก็อาจจะทำให้เราวิตกกังวลกับเรื่องงานน้อยลงไปบ้าง แต่สุขภาพที่แข็งแรงกลับมาด้วย เมก็ไปคลาสเรียนเต้นกับเพื่อนๆ ที่ Urban Dance Studio สนุกดี
รวมถึงเวลาจะไปกินข้าวหรือไปซื้อของ จากที่ปกตินั่งมอเตอร์ไซค์วินไป ช่วงนี้ก็จะพยายามเดินให้มากขึ้น เพราะเราไม่ต้องรีบร้อน ประหยัดเงิน และได้ออกกำลังกายไปในตัว
8. ไปเที่ยว
อาจจะเป็นคำแนะนำแปลกๆ เพราะการว่างงานก็เป็นช่วงที่ต้องเก็บหอมรอมริบใช่ไหมล่ะ แต่สำหรับเมคือมันยากมากที่เราจะมีโอกาสได้ไปเที่ยวแบบยาวๆ ไม่ต้องลาพักร้อน ไม่ต้องคิดว่าจะต้องรีบกลับ ถือว่าเอาช่วงเวลาว่างตรงนี้ไปเปิดโลกทัศน์ของเราเอง ได้ไปเห็นเมือง วิถีชีวิตและผู้คนต่างชาติต่างภาษา ที่สำคัญเมได้เพื่อนใหม่มาเยอะเลย :) ใครที่อยากจะไปเที่ยว พักผ่อน รีเซ็ตจิตใจ ก็เริ่มจากไปใกล้ๆ ก็ได้ เดี๋ยวนี้เดินทางไปเที่ยวง่ายมาก นั่งรถไฟก็ได้ เครื่องบินก็ไม่แพง
อ่านบล็อกตอนเมไปเที่ยว Tràng An >> https://www.maesabai.com/single-post/2018/08/19/Trang-An-Vietnam
นี่ก็เป็นสิ่งต่างๆ ที่เมทำช่วงที่ว่างงาน ถ้าถามว่ารอดมั้ย ก็อยู่มาได้พักนึง จนตอนนี้มันก็เกือบจะไม่รอดแล้วล่ะ แต่เมรู้สึกว่าเงินทดแทนที่เราได้รับจากการเป้นผู้ประกันตน ก็ช่วยเราไว้ได้เยอะเลยนะ อย่างน้อยก็ได้ค่าเช่าบ้าน ใครที่ว่างงานก็รีบไปลงทะเบียนกันนะ จะได้ไม่เสีบสิทธิไปฟรีๆ และขอให้ทุกคนโชคดี ได้รับโอกาสด้านการงานในองค์กรที่ดีๆ นะคะ
