คูชั่น และ คูชั่น และคูชั่น ตอนนี้แบรนด์ไหนๆ ก็ออกคูชั่น Maesabai เองได้ลองมาแค่ไม่กี่ยี่ห้อ เพราะรู้สึกไม่อินเท่าไหร่ เคยได้ลองใช้แล้วรู้สึกว่ามันง่ายจริง แต่กดออกมาเลอะเทอะไปหมด เลยยังเทใจให้รองพื้นแบบลิควิดอยู่ (รู้สึกได้เยอะด้วยในราคาเท่ากัน) แต่สิ่งที่ชอบเกี่ยวกับคูชั่นคือความเบาสบาย ให้ลุคแบบผิวเป็นผิว
และทั้งที่ว่าจะไม่ใช้คูชั่นแล้ว แต่ด้วยความที่เป็นแฟนของ Sephora พอได้ข่าวแบรนก์นี้ออกคูชั่นมา ก็อดใจไม่ไหวจริงๆ ไปสอยมาจนได้ พุ่งตัวไปซื้อแบบเร่งด่วนเพราะมีธุระต่อ แต่ไหนๆ ก็ไปแล้ว รีบสวอทช์และตัดสินใจพาเต้าคูชั่นพร้อมด้วยครีมแมต์ลิปสติกอีก 3 สีกลับบ้าน >_< เด๋วมาเห่อกันหน่อยดีกว่า ว่า Maesabai พอใจกับไอเท็มพวกนี้แค่ไหนค่ะ
เดี๋ยวๆ ชื่อยาวอะไรงั้นอ่ะ Maesabai ซื้อสี Walnut มาค่ะ ซึ่งเข้มกว่าผิว ด้วยความตั้งใจจะใช้สำหรับลุค Summer ต้องบอกก่อนว่า Summer หรือ Winter เรามักจะมีธีมส่วนตัว อย่าง Summer ก็ต้องโชว์ผิว ไปอาบแดดเพิ่มความแทน ใช้แต่บิวตี้ไอเท็มที่เพิ่มความโกลว เรื่องนี้เป็นความเพี้ยนส่วนตัว (บางวันโกลวไปก็หน้าเรืองรองมากไปเลยด้วย) ดังนั้นสี Walnut ที่ซื้อมานี้ ตอนที่ซื้อก็คิดว่าน่าจะพอเหมาะกับลุคที่ต้องการพอดี ปัดไฮไลท์โกลวๆ ลงไปสักนิด คงเริ่ดเลย ร้อนหน้าละลายขนาดนี้ จะมาโบ๊ะรองพื้นหน้าหนักอยู่ก็ไม่ไหวค่ะ
เวลา Maesabai เขียนเล่าก็ไม่ได้รีวิวชัดเจน ต้องออกตัวไว้ก่อน เพราะส่วนใหญ่จะเป็นความเห่อ ที่มาเล่าให้ฟังว่าชอบไม่ชอบยังไง อาจจะไม่ได้อธิบายละเอียดมากนักนะคะ
สำหรับเจ้า Glowy Natural Finish Cushion Foundation ความประทับใจแรกคือสีที่มีโทนเข้มๆ แทนๆ มาให้ลองบ้าง เพราะอย่างที่รู้กันว่าต้นตำรับเจ้าคูชั่นเนี่ยเค้ามาจากเกาหลีใช่มั้ยล่ะ แล้วพอเป็นแบรนด์เกาหลีปุ๊บ ข้าพเจ้าก็ตายปั๊บเลย ไม่มีสีที่รอด สีที่เข้มสุดของเขาก็ขาวไปทุกที ดังนั้นเรื่องความหลากหลายของสี Sephora เค้าตอบโจทย์มากอ่ะเธอ
เปิดตลับมาด้านในก็จะมีฟองน้ำแน่นๆ มาให้อันนึงค่ะ เอาไว้โกยเนื้อรองพื้นขึ้นมาปาดหน้า แต่เวลาใช้แตะเบาๆ ก็ได้แล้ว เพราะ Maesabai เองจิ้มแรงไปนิด ตู้ม! ฟองน้ำจมลงไปครึ่งนึงเลยบวกนิ้วด้วยค่ะ เรียกว่าทายันเล็บ
จกแรงไปได้เนื้อรองพื้นขึ้นมาแบบทาไปได้สามวัน T_T
เมื่อได้ปาดลงบนผิว ก็ตามสไตล์คูชั่นนะคะ เบา ลื่น เกลี่ยสบาย เราลืมเรื่องของการปกปิดไปได้เลย Light Coverage ค่ะ รอยแดง รอยดำ รูขุมขน รอยกระ รอยสิว จะยังอยู่โบกมือทักทายเราอย่างพร้อมเพรียง แต่แค่สภาพดูดีขึ้น แบบเฮลโหลว อยู่นี่ที่เดิมจางลงบ้างนิ้ดดดดดนึง
ฟองน้ำที่ให้มาช่วยให้ปาดรองพื้นง่ายขึ้น เมื่อเนื้อรองพื้นเซตตัวก็จะเปลี่ยนเป็นผิว แบบอธิบายไงดีล่ะ คือไม่ใช่เปลี่ยนเป็นแป้งแบบพวกรองพื้นที่กลายเป็นแป้ง แต่เนื้อคูชั่นเนี่ยจะแบบเบาเหมือนซาตินบนผิว เหมือนทาทินท์มอยเตอไรเซอร์ แต่จะเซ็ทตัวโดยไม่ต้องลงแป้งทับ (ใครหน้ามันและอยากให้อยู่ทน อาจจะเซ็ทด้วยแป้งฝุ่นก็ได้ค่ะ) คือทาเสร็จแล้วมันเหมือนไม่ได้ทาอะไรเลย เบามาก เบ๊าเบา เบาไป๊ แต่มีความฉ่ำปานกลางค่ะ
ใครที่ไม่ชอบความเค้ก ความปกปิด ความแน่นของรองพื้น หรือใครที่ลงทุนกับการบำรุงผิวไปเยอะแล้วอยากโชว์ผิว หรือคนที่อยากได้ลุคที่แต่งแล้วเหมือนไม่แต่งอะไรเลย คูชั่นน่าจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะกับพวกคุณค่ะ แต่จะชอบยี่ห้อไหน แนะนำว่าต้องไปลองเองที่เคาน์เตอร์นะคะ
ได้ลองลากเพื่อนมาช่วยเทสต์ แต่นางไม่ประสงค์จะโชว์หน้า แต่ได้คอมเม้นท์มาว่า ชอบ เบา เหมือนไม่ได้ทา ฉ่ำดี เพราะนางผิวแห้ง แต่กลิ่นแรงไปสำหรับนาง นางบอกได้กลิ่นแล้วอยากดื่มจินโทนิค
เมลองปาดทับบนรอบจางๆ ของลิปสติก ปาดแบบโบ๊ะลงไปเลย จะเห็นว่ายังเห็นจางๆ อยู่ดี ส่วนเรื่องของการ Touch Up ระหว่างวัน เมลองเติมแล้วไม่เป็นคราบแต่อย่างใด เติมได้เลยไม่ต้องกลัวจะดูโบ๊ะ
Sephora Wonderful Cushion Matte Lip Cream 440THB
01 Wonderful Rosy
04 Wonderful Fushia
06 Wonderful Purple
ไม่ได้ตั้งใจจะสอยมาจริงๆ แต่ Maesabai หยิบมาป้ายแขนแล้วปลื้มมาก สีแน่นอะไรงั้นอ่ะเธอววววว มีความครีม มีความแมตต์ เหมือนพวกจิ้มจุ่ม Soft Matte เป็นเนื้อแมตต์ที่ไม่แห้ง มีทั้งหมด 6 สีนะคะ เมสอยมาแค่ 3 เท่านั้น
โดยเนื้อลิปสติกจะมาในหลอด เวลาใช้ก็บีบให้เนื้อครีมออกมา แล้วเกลี่ยด้วยหัวฟองน้ำกลมๆ คอนโทรลยากนิดหน่อย ถ้าจะให้ปากคมๆ คงต้องใช้แปรงทา แต่ถ้าชอบสีระเรื่อๆ ก็แต้มจากด้านในแล้วเม้มๆ หรือเอานิ้วเบลนด์ก็ได้ค่ะ
Maesabai ลองสวอทช์บนแขนให้ดูนะคะ จะเห็นว่าสีแน่นทีเดียว แต่เจ้าตัวสี Wonderful Purple มันไม่ยักกะม่วงแฮะ
อันนี้หลังจากทาทิ้งไว้ครึ่งชั่วโมงแล้วเอาทิชชู่เช็ดออก จะเห็นว่าจะยังมีสีสเตนทิ้งไว้ค่ะ
มาดูสีบนปากกันบ้าง (ทาไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่)
โชคดีที่มีแต้มสะสมอยู่พอสมควร เลยใช้สิทธิลด 10% ลดไป 222 บาท โดยการสอยครั้งนี้บวกขั้นตอนจ่ายเงิน เมใช้เวลาไปประมาณ 5 นาทีเท่านั้น เพราะตั้งใจพุ่งไปซื้ออยู่แล้ว ใครที่สนใจเครื่องสำอางตัวไหน ลองหาข้อมูลก่อนไปซื้อนะคะ จะได้เปรียบเทียบหลายๆ ตัว หาตัวที่ชอบที่สุด และเหมาะกับงบประมาณที่สุด เผื่อมีในเรื่องโปรโมชั่นด้วยค่ะ แต่อย่างไรก็ตามไปลองเองจะดีที่สุดว่าใช่สิ่งที่เราอยากได้จริงหรือเปล่าค่ะ
วันนี้ Maesabai ขอเห่อไว้แค่นี้นะยู้ววววว สวัสดีค้าบ :)
ลองไปดูสินค้า In House Brand และยี่ห้ออื่นๆ ของร้าน Sephora แบบออนไลน์ได้แล้วที่
ติดตามกันใหม่บล็อกหน้านะคะ สำหรับ รีวิว ลิปสติก เครื่องสำอาง บิวตี้ cosmetics แต่งหน้า บลาบลาบลา รออ่านกันค่ะ